ช่วงสำคัญของปีกับศึกฟุตบอลยูโร 2021 อย่างนี้เลยอยากพาผู้ประกอบการนักอ่านสายบอลทุกท่านไปเรียนรู้การบริหารธุรกิจผ่านประสบการณ์การเล่นเกมที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Football Manager ใครยังไม่เคยรู้จัก ยังไม่เคยลองเล่น อ่านบทความนี้จบต้องรีบไปโหลดมาเล่นกันเลยทีเดียวค่ะ
Football Manager เป็นเกมจากค่าย Sport Interactive ที่อยู่คู่แฟนบอลทั่วโลกมาเกือบ 30 ปี!!! ตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อเดิม Championship Manager ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงครองใจผู้เล่นเก่าพร้อมสร้างฐานผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รูปแบบของเกมคือการให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล คิดกลยุทธ์วางตัวผู้เล่น บริหารทีม พัฒนาดาวรุ่งในสังกัด พัฒนาสนาม ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีความสมจริงมาก เช่น คุมทีมอยู่ดี ๆ พาทีมคว้าแชมป์มาก็หลายเกม จู่ ๆ โดนเทคโอเวอร์ เจ้าของใหม่เลือกจ้างกุนซือระดับโลกมาแทน อ้าว ตกงานเฉย!
จุดขายของของเกมนี้ที่ทำให้ครองตลาดผู้เล่นทั่วโลกมาอย่างยาวนานคือ “ข้อมูล (Data)” ที่เจาะลึก อัพเดตตลอดและมีความแม่นยำมาก เรียกได้ว่าสาวกต่างซูฮกว่าสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เกมเกมนึงจะทำได้เลยทีเดียว แม้จะมีคู่แข่งพยายามเข้ามาตีตลาดดึงผู้เล่นด้วยกลยุทธ์สร้างงานกราฟิกที่สวยกว่า ก็ไม่ทำให้ Football Manager เสียฐานผู้เล่นไปได้เลย
ข้อมูลลึกแค่ไหน? ลึกในระดับที่ว่าสามารถทำให้ผู้เล่นอินไปกับความสมจริงจนเล่นกันลืมหลับลืมนอนกันเลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยของนักฟุตบอลในเกม รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะ ลักษณะการเล่น รวมถึงรายละเอียดแต่ละสโมสรหรือรายละเอียดโค้ชแต่ละทีม ทุกองค์ประกอบข้อมูลสมจริงถึงขั้นที่ผู้เล่นหลายคนนำมาใช้ในการทำนายสถานการณ์ความเป็นไปได้ในโลกฟุตบอลจริงได้อย่างแม่นยำ!
บทความนี้ได้รับโอกาสพิเศษจากคุณชาล เจริญพันธุ์ CEO HUBBA Thailand ผู้เป็นแฟนตัวยงของเกม Football Manager เรียกได้ว่าโตมากับเกมนี้เลยค่ะ เพราะคุณชาลแอบกระซิบมาว่าเริ่มเล่นตั้งแต่ยังอยู่ประถม!!!
บทเรียนจาก Football Manager ที่คุณชาลนำมาประยุกต์ใช้ในเกมธุรกิจจนถึงทุกวันนี้ สรุปออกมาเป็นประเด็นหลัก ๆ 3 ข้อด้านล่างนี้ค่ะ
1. ประเด็นเรื่องการ coaching
ในฐานะผู้จัดการทีม งานสำคัญคือต้องสามารถ coaching หรือ ฝึก/ให้คำแนะนำนักเตะในสังกัดของตัวเองได้ ฉะนั้นทักษะที่ควรมีคือ ‘การสังเกต’ เพื่อวิเคราะห์ให้กระจ่างว่านักเตะแต่ละคนมีจุดแข็งในด้านใดและควรพัฒนาในด้านใดเพื่อให้การเล่นของทีมมีประสิทธิภาพ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือต้องรู้ลึกลงไปถึงจุดที่ว่าถ้านักเตะคนนั้น ๆ พัฒนาในด้านนี้ไปแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อตำแหน่งที่เขาเล่นหรือไม่ และเป็นการฝืนเกินไปหรือเปล่า ซึ่งไม่ต่างกันเลยกับการรับบทบาทผู้นำองค์กร เพราะผู้นำต้องเก่งในการมองคนให้ขาดเช่นเดียวกัน แต่การมองคนในแง่นี้คือมองโดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาบุคคลให้กลายเป็นทรัพยากรอันล้ำค่าขององค์กร เปรียบดั่งการฝึกนักเตะให้กลายเป็นดาวรุ่งและพาทีมคว้าแชมป์มาให้ได้นั่นเอง
การเปิดรับของผู้ถูก coaching เองก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะต่อให้ผู้ฝึกเก่งแค่ไหน มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาแค่ไหน หากผู้รับไม่เปิดใจการฝึกก็ถือว่าล้มเหลว เพราะสารไม่สามารถส่งไปถึงผู้รับได้ และจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่หากการฝึกเป็นการยัดเยียดมากจนเกินไปจะส่งผลเสียโดยตรงกับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย นี่จึงยิ่งเป็นเหตุผลสนับสนุนที่สำคัญว่าทำไม ‘การสังเกตคน’ และ ‘การอ่านคนให้เป็น’ เป็นทักษะที่สำคัญมาก (ก.ไก่ ล้านตัว) ทั้งสำหรับผู้จัดการทีมและผู้นำองค์กร
ตัวเลขเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ จากประสบการณ์การเล่นเกมมากว่าสองทศวรรษ คุณชาลถ่ายทอดสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการบริหารทีมของตัวเองมาว่า อายุของผู้ที่ถูกโค้ชเป็นอีกปัจจัยของการเปิดรับการ coaching ที่ไม่ควรถูกมองข้าม ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่คนเรามักจะมีอีโก้ในตัวเองสูงขึ้นเท่านั้น เพราะถือว่าตนมีประสบการณ์มามากพอ ยกตัวอย่างเช่นในเกม จะมีฟังก์ชั่นที่ทำให้ไม่สามารถ coaching ให้กับนักเตะที่มีอายุเกิน 23 ปีแล้วได้ และยิ่งช่วงวัยของตัวโค้ชกับผู้ที่ถูกโค้ชมีความใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ของการฝึกก็ยิ่งด้อยลง ด้วยค่าประสบการณ์ของทั้งสองฝ่ายมีความใกล้เคียงกันประสิทธิภาพที่ออกมาจึงยิ่งต่ำ รวมถึงภาระรับผิดชอบการ coaching เองควรเป็นอัตราส่วน 1:1 ยิ่งต้องโค้ชให้กับหลายตำแหน่งผู้เล่น ยิ่งมีเวลาในการใส่ใจแต่ละผู้เล่นน้อยลง ซึ่งกระทบไปถึงผลการฝึกที่ด้อยประสิทธิภาพตามไปด้วย ฉะนั้นการจับคู่โค้ชและผู้ถูกโค้ชจึงต้องถูกคิดมาแล้วให้รอบด้าน ทั้งปัจจัยเรื่องช่วงวัย ทักษะที่จะนำมาถ่ายทอด และความเข้ากันได้
2. ประเด็นการบริหารทีม
จากประสบการณ์ที่เล่นเกมมาตั้งแต่เด็ก บวกกับประสบการณ์บริหารองค์กรและให้คำปรึกษาแก่องค์กรใหญ่ ๆ ในด้านการพัฒนาและบริหารจัดการนวัตกรรม คุณชาล เจริญพันธุ์พบว่า องค์กรหรือในโลกของเกมก็คือทีมฟุตบอล ที่คอยหาโอกาสให้พนักงานหรือหาโอกาสให้นักเตะได้แสดงทักษะฝีมือ แสดงความรู้ความเชี่ยวชาญของตน จะยิ่งทำให้เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จขององค์กรสูงขึ้น
ส่วนอีกปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ ‘บรรยากาศการทำงาน’ สำหรับเกมฟุตบอล ความสามัคคีของสมาชิกในทีมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย หากเพื่อนร่วมทีมบาดหมางกัน ไม่ไว้ใจกัน ขาดความเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทีม ก็ยากที่จะตัดสินใจส่งบอลให้ แน่นอนว่ารูปแบบกีฬาฟุตบอลอาศัยการเล่นกันเป็นทีม หากทีมไม่เชื่อใจกัน ต้องการเลี้ยงบอลเพื่อยิงประตูโดยอาศัยลำแข้งของผู้เล่นเพียงคนเดียว ก็มองภาพไม่ออกเลยว่าทีมจะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างไร
3. ประเด็นเรื่องกลยุทธ์ในการแข่งขัน
เกมการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวางกลยุทธ์ที่ดี 2 ประเด็นก่อนหน้าเราพูดถึงการพัฒนาคน พัฒนาทีมไปแล้ว ฉะนั้นเมื่อมีทรัพยากรที่ดีอยู่ในมือแล้ว ผู้บริหารก็ต้องวางเกมให้เป็น วางผู้เล่นให้ถูกตำแหน่งด้วย กล่าวคือต้องอ่านสถานการณ์ให้ออก จึงจะสามารถวางเกมให้เหมาะสมได้ ซึ่งมีหลากหลายปัจจัยเหลือเกินที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่ง สถานการณ์แรงกดดัน สภาพอากาศ สภาพสนาม เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยส่งเสริมที่ผู้บริหารต้องคอยสอดส่องเพื่อเอามาเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่สมาชิกในทีม หรือพนักงานในองค์กร อย่างเช่นในเกมหรือแม้แต่ในโลกฟุตบอลจริง ก็จะมีการซื้อตัวนักเตะดาวรุ่งที่เก่ง ๆ มาจากทีมอื่นเพื่อมาเสริมประสิทธิภาพการเล่นของทีมตัวเอง หรือพัฒนาสนาม พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในสนาม เพื่อสนับสนุนนักเตะทางอ้อมในการพัฒนาศักยภาพทางร่างกาย เป็นต้น
การจะเป็นผู้บริหารไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นในเกมฟุตบอล หรือในเกมธุรกิจ ปัจจัยต่าง ๆ ที่พูดด้านบนทั้งการพัฒนาคน พัฒนาทีม การวางกลยุทธ์ หรือการหาปัจจัยส่งเสริมอื่น ๆ ภายนอก เข้ามาพัฒนาองค์กร ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริหารควรคำนึงถึงทั้งสิ้น และนอกเหนือจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดที่หลายองค์กร และผู้บริหารหลายท่านมักจะลืมนึกถึง นั่นก็คือ ‘การให้กำลังใจ หรือ การให้คำชม/คำขอบคุณ’ แก่ผู้อยู่ใต้ความดูแลของตน สิ่งที่จะทำให้บบรรยากาศในทีมหรือในองค์กรดีและทำให้พนักงานรักองค์กร เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการให้ความจริงใจให้การเคารพนับถือ และให้ความรักระหว่างกันและกัน วันนี้หลังอ่านบทความนี้จบ ลองทักไปขอบคุณคนใกล้ตัวคุณดูนะคะ
Create your own business story! ธุรกิจออกแบบได้ด้วยมือของคุณเอง เล่นเกมเสร็จแล้วลองหันมาทบทวนแนวทางการบริหารองค์กรของคุณดูนะคะ หากใครต้องการคำปรึกษาทางด้านการพัฒนาองค์กร การพัฒนาบุคลากร ติดต่อโดยตรงหา HUBBA Thailand ได้ customersuccess@hubbathailand.com หรือโทร 02-0891651
.png)
.png)
